โดย Binance ได้มีการประกาศผ่านทาง Twitter เมื่อช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา ถึงการเชื่อมต่อการซื้อขายระหว่างแพลตฟอร์ม NFT อันดับ1 โลกอย่าง Opensea และ Binance เพื่อพัฒนาช่องทางการซื้อขายให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับการอัพเกรดครั้งแรกนั้น จะเริ่มต้นด้วย NFT Collection 200 อันดับแรกใน Opensea ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ระบบ ERC-721 โดยจะอยู่ในช่องทางการซื้อขายของ Binance NFT market ซึ่งค่า NFT และค่าธรรมเนียมการซื้อที่ผู้ซื้อจ่ายไปนั้น ทาง Binance จะนำไปดำเนินการซื้อและเป็นผู้โอน NFT ให้แก่ผู้ใช้งาน
โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.เข้าถึง NFT แบบครบวงจรทั้งใน Binance NFT (Ethereum และ BNB Smart Chain) และ OpenSea (Ethereum) จาก Binance NFT Marketplace โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำสำหรับการซื้อข้ามแพลตฟอร์ม
2.อัปเกรดการแสดงภาพและข้อมูลใน NFT Collection และหน้า NFT แต่ละหน้าสำหรับการเปลี่ยนเเปลงของราคา
3.รวบรวมข้อมูลระหว่าง 2 แพลตฟอร์มและนำขึ้นสู่กระดานสถิติโดยรวม
4.การเพิ่มประสิทธิภาพ UI และ UX สำหรับคุณสมบัติต่างๆ ที่ Binance NFT Marketplace เช่น เมนูหลักของ Marketplace ตัวกรองการค้นหา และหน้าเนื้อหา NFT
5.ปรับปรุงกระบวนการฝากและถอน NFT ให้ง่ายขึ้น
รู้จักกับ Binance
ถ้าพูดถึงการเทรดเหรียญคริปโตเคอเร็นซี่แล้ว หนึ่งในสื่อกลางหรือกระดานแลกเปลี่ยนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หลาย ๆ คนต้องนึกถึง Binance อย่างแน่นอน โดย Binance มีส่วนแบ่งมากกว่า 80 % ของยอดการซื้อขายคริปโตเคอเร็นซี่บนกระดานแลกเปลี่ยน
Binance เป็นบริษัทที่ถูกก่อตั้งในปี 2017 จากความรู้และความสามารถของ Changpeng Zhao จากไต้หวันซึ่งเป็นชาวจีนเชื้อสายแคนนาดา ที่นำทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดที่มีอยู่ รวบรวมมาเป็นเงินเพื่อการสร้าง Binance และก้าวสู่การเป็นกระดานแลกเปลี่ยนระดับทอปในระยะเวลาเพียง 4 ปี ซึ่งปัจจุบันภือได้ว่าเป็นกระดานแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลอันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีเหรียญหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อได้ตรงความต้องการของนักลงทุน และปัจจุบันนับว่าเป็นแพลตฟอร์มกระดานซื้อขายคริปโตเคอเร็นซี่ที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยบริการด้านการลงทุนและการเงิน ที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศชื่นชอบ พร้อมเต็มใจลงทุนใน Derivatives Product กันเป็นจำนวนมาก
จุดเด่นของ Binance
ด้วยฟังก์ชั่นนานาประการแล้ว ทั้งยังรวมไปถึงปริมาณการซื้อขาย ทำให้ binance ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานรวมทั้งชุมชนผู้ใช้เหรียญคริปโตเคอเร็นซี่ทั้งโลก และจะขอยกข้อได้เปรียบที่แตกต่างจากกระดานแลกเปลี่ยนอื่น ๆ ดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ Binance มีการฟรีค่าธรรมเนียมการฝากเหรียญหลายประเภท, ฟรีค่าธรรมเนียมตัดบัตรเครดิต และค่าธรรมเนียมการเทรดเหรียญคริปโตคิดเพียง 0.1 % ของปริมาณการซื้อขาย ซึ่งถ้าเกิดมีจำนวนการซื้อขายต่อเดือนมากขึ้นเรื่อยๆจนได้เลื่อนระดับ ค่าธรรมเนียมที่ว่านี้ก็สามารถลดต่ำลงอีก
2. เปิดบัญชีง่าย มีวิธีการยืนยันตัวตนที่ไม่ยุ่งยาก สามารถยืนยันตัวและพร้อมเทรดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
3.เป็นตลาดใหญ่ มีผู้ใช้งานทั่วโลก และปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับ 1 ทำให้ค่อนข้างมีสภาพคล่องสูงกว่าตลาดอื่น และทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของราคามากนัก
และที่สำคัญ Binance ได้พัฒนาฟีเจอร์เพื่อรองรับการนำเงินบาทมา ซื้อ bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว รองรับการใช้งานของคนที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องได้อย่างดีเยี่ยม
รู้จักกับ Opensea
OpenSea เป็นตลาดที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนงานศิลปะหรือของสะสมในรูปแบบของ NFT โดยเฉพาะ เปรียบเสมือนกับการเป็นตัวกลางใก้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายเช่นเดียวกับแอพพลิเคชั่นช็อปปิ้งต่าง ๆ
OpenSea ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2017 โดยวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่าคุณ Alex Atallah และคุณ Devin Finzer ที่ดำรงตำแหน่ง CTO และ CEO ของ OpenSea ในปัจจุบัน โดยเริ่มต้นด้วยโครงการที่ชื่อว่า “Wificoin” ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจาก Y Combinator ระหว่างนั้นพวกเขาก็ได้เริ่มสนใจใน NFT จากโปรเจกต์ CryptoKitties และเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน NFT อย่างเต็มรูปแบบจนกลายเป็น Opensea ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT อันดับหนึ่งของโลก
จุดเด่นของ Opensea
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT มากมายหลายเจ้า แต่ละเจ้าก็พัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานกันแบบเต็มที่ แต่ที่ทำให้ Opensea ยังเป็นอันดับ 1 ได้ มีดังนี้
1.สร้างคอลเลกชัน NFT ได้ง่าย แพลตฟอร์มของ Opensea ถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ไม่มีความซับซ้อน และผู้ใช้งานไม่ต้องเขียนโค้ด
2.รองรับ NFT หลายประเภท ไม่มีการจำกัดประเภทของเครือข่าย Blockchain และปัจจุบันมีอัพเกรดเพื่อให้รองรับได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถลงขาย NFT ได้หลายหมวดหมู่ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย ไม่เว้นแม้กระทั่งภาพจากระบบคอมพิวเตอร์
3.ค่าธรรมเนียมต่ำ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มที่ 2.5% ต่อการซื้อขายในแต่ละครั้ง แต่จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์มใด ๆ ซึ่งต่างจากบางแพลตฟอร์มที่คิดค่าธรรมเนียมสูงถึง 3 หรือ 5%
4.ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ขึ้นชื่อว่า NFT ก็จะมีการใช้ระบบของ Smart Contract บนเทคโนโลยี Blockchain อยู่แล้ว จึงมั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมผ่าน Opensea จะมีความภัยที่สูง
เมื่อรู้จักกับ Opensea และ Binance แล้วท่านผู้อ่านคิดว่า การร่วมครั้งนี้จะเป็นไปในทางใด และจะส่งผลกระทบยังไงต่อโลกแห่งคริปโตเคอเร็นซี่ สามารถมาพูดคุยกันได้ที่ลิ้งค์ด้านล่าง
รอบรู้ข่าวสารใหม่ๆเกี่ยวกับ NFT
โปรดติดตาม NFT360 เข้าใจง่าย ได้ครบทุกมิติ
join NFT360 Community เพื่อรับข้อมูลสุด Exclusive
https://discord.com/invite/H2KVwV6z6X
ช่องทางการติดตาม NFT360 ทุก Social Media
บทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอข่าวของวงการ NFT มิได้ชวนเชิญการลงทุนเป็นอย่างใด
โปรดศึกษารายละเอียดให้เข้าใจก่อนลงทุน
