Tripster โปรเจคเที่ยวแลกเงิน หรือ Travel2Earn Blockchain Platform มีที่มาจาก Readme.me ซึ่งเป็นเว็บไซต์ Travel Blogger Platform โดยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้เจ้าของธุรกิจการท่องเที่ยว ได้นำห้องพักที่ว่างจากการจอง มาแลกเปลี่ยนให้เหล่าบล็อกเกอร์เขียนแชร์ประสบการณ์ในแต่ละทริป ให้ทุกคนได้อ่านรีวิวการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในแพลตฟอร์ม
Business Model
Tripster นำแนวคิด Win-Win-Win model มาใช้ โดยมีแนวคิดว่า เป็นธุรกิจที่ทุกฝ่ายต้องได้ประโยชน์ ในวงการท่องเที่ยว เรามีห้องพัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วเข้าชมต่างๆ ในทุกๆวัน ซึ่งเราไม่สามารถนำไปขายในวันพรุ่งนี้ได้ เราจึงนำห้องพักเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ ดังนี้
1.ให้โรงแรมนำห้องว่างมาใส่ในฟังก์ชัน blogger matching ของ readme และ blogger ที่ถูกแมชจะได้รับห้องพักหรือสินค้าอื่นๆได้ฟรี
2.Blogger ไปเที่ยวและเขียน blog มาให้ readme
3.เมื่อนักท่องเที่ยวอ่าน blog และสนใจซื้อดีล ก็สามารถจองผ่าน platform ชั้นนำต่างๆกว่า 200 แห่ง เช่น Agoda, Booking.com, Trvaeloka, Klook ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Readme
4.เมื่อเกิดการจองที่ platform ต่างๆ ทาง Readme จะได้ค่า commission และเราจะนำรายได้แบ่งให้กับ Blogger, นักท่องเที่ยว และ Readme
จะเห็นได้ว่าจากโมเดลธุรกิจของ Readme จะทำให้เกิด win-win-win ทุกฝ่าย ดังนี้
1.เจ้าของธุรกิจ ได้โฆษณาห้องพัก
2.Blogger ได้ท่องเที่ยวฟรี และสร้างรายได้เพื่ม
3.นักท่องเที่ยวได้อ่าน content ที่มีคุณภาพ และได้เงินคืนอีกด้วย
วิธีหารายได้ (Revenue Model)
1. คอมมิชชั่น – เมื่อเพื่อนๆซื้อสินค้าทางการท่องเที่ยวผ่านพาร์ทเนอร์กว่า 200 เจ้าของเรา Tripster จะได้รับคอมมิชชั่นเป็นรายได้ทันที
2.ค่าธรรมเนียมในการใช้แพลตฟอร์ม – เมื่อเจ้าของธุรกิจไหนต้องการให้ Tripster เป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายให้ เราก็จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมในส่วนนี้ เช่น การขาย voucher ใน platform
3.ค่าโฆษณา – เรามีผู้ใช้งานนับล้านคนทั่วโลก การให้เราทำโฆษณาให้นั้นบอกได้เลยว่า คุ้มค่ามาก ๆ และแน่นอนว่าเราต้องมีรายได้จากการทำโฆษณาด้วย
4.NFT – เรามี NFT หลายอย่างที่สามารถนำมาสร้างเป็นรายได้จริงๆให้กับทั้งผู้ใช้งานและแพลทฟอร์มได้ในเวลาเดียวกัน
เมื่อรวมรายได้ทั้ง 4 อย่างเข้าด้วยกัน จะเห็นได้ว่า Tripster มีแนวทางการหารายได้ที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นรากฐานช่วยผลักดันให้ Tripster เติบโตได้อย่างมั่งคงและแข็งแรงในอนาคต
NFT ของ Tripster โปรเจกต์เรามี NFT อยู่ 3 แบบ แต่ละแบบทำอะไรได้บ้าง ?
1. NFT Travel Pass ตั๋วร่วมทริปที่ใครที่ถือไว้ จะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมสุด Exclusive ได้ หรือ ใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์ม กับพาร์ทเนอร์ที่ของจากทั่วโลก และยังเก็บไว้ซื้อ Small World NFT ได้อีกด้วย
2. NFT Travel Kitz / Share to Earn แค่กดแชร์ก็ได้เงิน เป็นโมเดลที่ให้ผู้ถือ NFT นี้ ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก Tripster และ Readme เพื่อรับผลตอบแทนเป็นเงินจริง (fiat money) จากพาร์ทเนอร์ของเรา
3. Small World NFT คอมมูเล็กๆของชาวทริป ที่ให้ผู้ใช้แพลตฟอร์มของเรา สามารถมาอัปโหลดรูปภาพจากการไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ โดยรูปภาพเหล่านั้นจะถูกจัดเก็บไว้บน Blockchain เหมือนสแตมป์บันทึกการเดินทางที่ให้ทุกคนมาเปิดดูได้ตลอด
วิธีหารายได้จาก Share2Earn ด้วย NFT Travel Kitz
Share-to-Earn 1 ใน NFT ของ Tripster ที่เป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้ ให้กับผู้ที่ถือ NFT Travel Kitz ไว้เป็นของตัวเอง และมีวิธีการทำเงินที่ง่ายมาก โดยแค่แชร์ให้ได้ตามที่กำหนดเท่านั้น ก็ได้เงินแล้ว หรือ Reward อื่นๆ ที่ได้มาก็นำไปใช้แลกเป็นเหรียญ TRIP ได้อีกด้วย และที่พิเศษยิ่งกว่า ก็คือใช้แลกเป็น Voucher ที่พักจากโรงแรมในเครือพาร์ทเนอร์ของเราเพื่อพักได้ฟรี!
โดยวิธีการหารายได้จาก Share2Earn มีดังนี้
✈️คุณต้องมี NFT Travel Kitz ถ้ายิ่ง upgrade ได้สูง รางวัลที่จะได้รับก็ยิ่งมากขึ้น
✈️เริ่มทำภารกิจ Bucket list ประจำวันด้วยการแชร์ แชร์คอนเทนต์ประสบการณ์การท่องเที่ยว บน Readme โดยจะสร้างรายได้กลับคืนให้ผู้แชร์เฉลี่ยแล้ว 1,200 บาท/วัน มีระยะเวลาในการทำทั้งหมด 40 – 90 วัน ลองคิดดูว่าจะได้กำไรขนาดไหน 🤑
✈️เมื่อยอดแชร์ทะลุเป้าหมายจะได้รับแต้ม RME สามารถนำไปแลกเป็นเหรียญ TRIP หรือ Voucher ที่พักได้ และถ้าอยาก upgrade NFT Travel Kitz ให้เลเวลสูงขึ้น เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่มากกว่า สามารถใช้เหรียญ TRIP ในการเพิ่มระดับได้ เลเวลที่สูงขึ้น จะสามารถเพิ่มระยะเวลาในการทำ Bucket list, ได้แต้ม RME มากกว่าเดิม, ได้เหรียญ TRIP เพิ่มขึ้น คุณก็จะมีโอกาสในการสร้างรายได้ที่มากขึ้นไปอีกในแต่ละวัน 💸
#Tripster #Travel2Earn #NFT360
